ไฟไหม้รถเมล์แยกราชประสงค์ โชคดีไร้คนเจ็บ คนขับเล่านาทีชุลมุน ถังแก๊สหาย-ใช้การไม่ได้

ไฟไหม้รถเมล์แยกราชประสงค์ โชคดีไร้คนเจ็บ คนขับเล่านาทีชุลมุน ถังแก๊สหาย-ใช้การไม่ได้

เมื่อประมาณตีสองของวันนี้ (15 มิ.ย.) เกิดเหตุไฟไหม้ท้ายรถเมล์สาย 76 วิ่งระหว่างประตูน้ำ – แสมดำ หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 15-3742 กรุงเทพมหานคร โดยเหตุเกิดบริเวณตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ ด้านถนนราชดำริขาออก มุ่งหน้าถนนสีลม บริเวณทางเข้าคอนโดฯ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด

ตำรวจพร้อมด้วยรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. 

ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการควบคุมเพลิง แต่รถก็พังเสียหายทั้งคัน โชคยังดีที่ทุกคนบนรถหนีลงมาได้ทันเวลา

นายสิริวัฒน์ ผลเพิ่ม อายุ 47 ปี พนักงานขับรถ เล่าถึงนาทีชุลมุนว่า ตนขับรถออกมาจากประตูน้ำเพื่อไปแสมดำ โดยบนรถมีผู้โดยสาร 6-7 คน เมื่อมาถึงที่แยกราชประสงค์ ตนได้เร่งความเร็วให้พ้นแยก แต่พอถึงจุดเกิดเหตุรถก็เร่งไม่ขึ้น และกระเป๋ารถเมล์ก็ตะโกนว่าไฟไหม้ท้ายรถ ตนจึงประคองรถเข้าข้างทางและเปิดประตูให้ผู้โดยสารลง จากนั้นก็หยิบถังดับเพลิงที่อยู่ด้านหน้ามา แต่กลายเป็นว่าสลักเหล็กไม่อยู่กับตัวถังแล้ว มีแค่ไม้เสียบลูกชิ้นแทน อีกทั้ง เมื่อพยายามกดก็ไม่มีเคมีดับไฟออกมา จึงไปหยิบถังที่อยู่ด้านหลังเพราะปกติจะต้องมีสองถัง ถังละจุด แต่กลับไม่มีถังดับเพลิงอยู่ที่ท้ายรถ

แม้ว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีถังเซฟตี้อีกชุด แต่ก็ต้องใช้วิธีไปกดที่ถังดับเพลิงที่มีกุญแจล็อกอยู่ทำให้กดไม่ได้ ตนจึงตัดสินใจทิ้งรถเพราะไฟเริ่มลามเข้ามาใกล้ โดยนายสิริวัฒน์ ระบุว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถคันที่ตนขับประจำ แต่วันนี้รถคันประจำเกิดเสีย และตนเพิ่งจะวิ่งรถคันนี้ได้รอบที่ 2 เท่านั้น

ทั้งนี้ ทางตำรวจกล่าวว่า สาเหตุของเพลิงไหม้นั้น

เรื่องหนึ่งที่ใช้สถานที่ถ่ายทำเป็นจ.เชียงใหม่ รวมถึงมีการเผยแพร่ฉากหญิงสาวฟ้อนรำสไตล์ล้านนา และการนวดแผนโบราณประกอบในหนังทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

เนื้อเรื่องดำเนินโดยการตระเวนไปจุดต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่ เช่น ย่านถนนลอนเคราะห์ และกำแพงดิน โดยเน้นไปที่ร้านนวดไทย สลับกับการฟ้อนรำล้านนา จากนั้นชายชาวต่างชาติที่เดินท่องเที่ยวอยู่ก็ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้ารับบริการนวดแผนโบราณจากหญิงสาวชาวไทย โดยทั้งคู่เข้าไปนวดในห้องส่วนตัว เริ่มจากการนวดปกติ จนเริ่มมีการถอดเสื้อผ้าและมีเพศสัมพันธ์กัน

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้คนเชียงใหม่จำนวนมากไม่พอใจ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของเชียงใหม่ อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเข้าใจผิดว่าการนวดแผนโบราณจะเป็นไปในลักษณะนี้เสียหมด

ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองภูเก็ต บุกรวบพ่อค้ายาเสพติด พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต,พ.ต.ต.หาญศึก ศรีทันต์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ นราศรี รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย จนท.ตร.ชุด ชปส.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด จำนวน 1 ราย นาย วีร์ชยพล กิตติคุณากานต์ อายุ 28 ปี หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 55 ซ.เยาวราช 2/2 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจยึด ของกลางคือ ยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบปากกดปิดดึงเปิด จำนวน 7 ถุง  ยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบปากกดปิดดึงเปิด จำนวน 2 ถุง รวมยาไอซ์ทั้งหมด จำนวน 9 ถุง น้ำหนักเฉพาะยาไอซ์ประมาณ  500.72 กรัม ยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบปากกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง บรรจุยาบ้าชนิดเม็ด สีส้ม จำนวน 21 เม็ด เครื่องชั่งแบบสปริง สีแดง (แบบชั่งน้ำหนัก 500 กรัม)  จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung สีดำ พร้อมซิมการ์ด จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น City สีขาว หมายเลขทะเบียน กว-2781 ภูเก็ต (ตรวจยึด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ)

โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นำส่ง พงส.สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการต่อไป

ขณะที่ นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวถึงปัญหาสถานการณ์น้ำของภูเก็ตว่า ขณะนี้ปัญหาน้ำมีผลกระทบกับการประกอบธุรกิจค่อนข้างมาก และมีผู้สอบถามมายังสมาคมฯ ค่อนข้างมาก โดยในส่วนผู้ประกอบการโรงแรมจะวางแผนการซื้อน้ำจากเอกชนมาใช้ในช่วงที่น้ำประปาขาดแคลน แม้ว่าจะมีราคาสูงอยู่ที่ลูกบาศก์เมตรละ 100 – 120 บาท ซึ่งก็ยอมซื้อเพราะยังสามารถซื้อได้ เนื่องจากจำนวนโรงแรมที่พักมีการเติบโตค่อนข้างมากและรวดเร็ว แต่ในปีนี้พบว่าน้ำที่เคยซื้ออยู่ในราคาลูกบาศก์เมตรละ 100-120 บาทก็หมดเช่นกัน ประกอบกับในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีข่าวว่าน้ำดิบในอ่างใกล้จะหมดหากฝนไม่ตกในเดือนเมษายนก็จะเกิดปัญหาหากไม่มีการจัดการ

จึงอยากให้ภาครัฐหามาตรการในระยะยาวรับมือกับปัญหาน้ำขาดแคลนช่วงหน้าแล้ง โดยดึงน้ำจากแหล่งน้ำที่มีอยู่อีกจำนวนมากในพื้นที่ และมีโครงการที่ทางกรมชลประทานได้ศึกษาไว้แล้วเพื่อดึงน้ำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการดึงน้ำมาจากจังหวัดใกล้เคียง น้ำในขุมน้ำเอกชน หรือน้ำใต้ดิน ซึ่งหากทำในช่วงนี้จะสามารถแก้ปัญหาในช่วงแล้งปีหน้าได้” นายก้องศักดิ์กล่าว